อะไรคือผลที่ตามมาจากการทำให้วาริสเตอร์ร้อนเกินไป?

วาริสเตอร์เป็นตัวต้านทานที่มีคุณสมบัติของโวลต์-แอมแปร์ไม่เชิงเส้นเช่นเดียวกับเทอร์มิสเตอร์ มันเป็นองค์ประกอบที่ไม่เชิงเส้นวาริสเตอร์มีความไวต่อแรงดันไฟฟ้าภายในช่วงแรงดันไฟที่กำหนด ความต้านทานจะเปลี่ยนแปลงตามการเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟ

วาริสเตอร์มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในเครื่องใช้ในครัวเรือน, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุตสาหกรรมและสาขาอื่น ๆ โดยอาศัยข้อได้เปรียบของตัวเองตัวอย่างเช่น เตาอบไมโครเวฟ เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ล้วนมีวาริสเตอร์ช่วงอุณหภูมิการทำงานของวาริสเตอร์คือ -40°C~+85°Cวาริสเตอร์มีประสิทธิภาพที่เสถียรหลังจากทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1,000 ชั่วโมงที่อุณหภูมิ +40°C (±2°C) และความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 90% จากนั้นเปลี่ยนเป็นสภาวะที่อุณหภูมิห้อง อัตราการเปลี่ยนแปลงแรงดันไฟฟ้าของวาริสเตอร์ที่ทดสอบจะน้อยกว่า 10%.

เมื่อถึงฤดูร้อน อุณหภูมิก็สูงขึ้นเรื่อยๆ และวาริสเตอร์มักจะมีปัญหาเมื่อทำงานที่อุณหภูมิสูงอันที่จริง วาริสเตอร์ทำงานที่อุณหภูมิสูงในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ไม่มีปัญหาเมื่อวาริสเตอร์ทำงานในช่วงอุณหภูมิเป็นเวลานาน การทำให้เป็นเส้นตรงที่มีความต้านทานต่ำของวาริสเตอร์จะค่อยๆ เข้มข้นขึ้น กระแสไฟรั่วจะเพิ่มขึ้นและไหลเข้าสู่จุดอ่อน และวัสดุของจุดอ่อนจะหลอมเหลวเพื่อสร้างรูลัดวงจร กระแสไฟขนาดใหญ่จะถูกเทลงในรูลัดวงจรอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความร้อนสูงซึ่งจะทำให้วาริสเตอร์เผาไหม้และเกิดไฟไหม้

 

วาริสเตอร์ 32D 911K

 

ดังนั้น เมื่อใช้เครื่องใช้ในครัวเรือน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง เราต้องใส่ใจกับอุณหภูมิรอบ ๆ เครื่องไม่ให้สูงเกินไป และรักษาช่วงอุณหภูมิปกติเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุอันตราย

เลือกผู้ผลิตที่เชื่อถือได้เมื่อซื้อวาริสเตอร์สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็นได้มากมายJYH HSU (หรือ Dongguan Zhixu Electronics) ไม่เพียงแต่มีตัวเก็บประจุแบบเซรามิกเต็มรูปแบบพร้อมการรับประกันคุณภาพเท่านั้น แต่ยังให้บริการหลังการขายที่ไร้กังวลอีกด้วยโรงงาน JEC ได้ผ่านการรับรองระบบการจัดการคุณภาพ ISO9001: 2015;ตัวเก็บประจุความปลอดภัย JEC (ตัวเก็บประจุ X และตัวเก็บประจุ Y) และวาริสเตอร์ผ่านการรับรองจากประเทศต่างๆตัวเก็บประจุเซรามิก JEC ตัวเก็บประจุแบบฟิล์ม และตัวเก็บประจุแบบซุปเปอร์นั้นสอดคล้องกับตัวบ่งชี้คาร์บอนต่ำ


โพสต์เวลา: ก.ค.-18-2022